Lunae\'s Fairytale: ไกรทองฉบับGundam SEED - Lunae\'s Fairytale: ไกรทองฉบับGundam SEED นิยาย Lunae\'s Fairytale: ไกรทองฉบับGundam SEED : Dek-D.com - Writer

    Lunae\'s Fairytale: ไกรทองฉบับGundam SEED

    My fairytale is the fanfiction of Gundam SEED showing on ITV 8:00am SAT-SUN. Please watch this anime before reading mine(^_^)

    ผู้เข้าชมรวม

    888

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    888

    ความคิดเห็น


    19

    คนติดตาม


    4
    หมวด :  แฟนตาซี
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 มี.ค. 47 / 22:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      Note: ผลงานนี้ขออุทิศให้แก่ Hikaru=Metallium ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้เขียนพร้อมการตามทวงถึง2ครั้ง2ครา จนผู้แต่งยอมเสียสละเงินที่ไม่ค่อยจะมีตอนสิ้นเดือนมานั่งพิมพ์ๆๆๆที่ร้านเนต(ชั่วโมงละ25บาทแน่ะ!) หากไม่เป็นที่ถูกใจของผู้ใด ขอให้โทษคนสร้างแรงบันดาลใจคนเดียวแล้วกันนะคะ(^_^)

      = = = = = = = = = = =

      กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งตั้งรกรากอยู่ริมแม่น้ำใหญ่ หมู่บ้านนั้นชื่อเสียงเรียงใดไม่ปรากฎเนื่องด้วยผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน จึงขอสมมติให้ชื่อว่า \"หมู่บ้านArchangel\" ล่ะกัน

      ที่หมู่บ้านนี้มีคหบดีนายหนึ่งนามMwu La Fraga ซึ่งครองรักกับเมียหลวงนามMaryuอย่างมีความสุขพร้อมลูกสาวคนโตอันเกิดจากเมียหลวงนามว่า Kagari และลูกเมียน้อยที่กำพร้ามารดาตั้งแต่แบเบาะคือFllayเพราะฤทธิ์เดชหึงสะท้านโลกันตร์ของคุณนายที่ตบตีทำร้ายNatalieผู้เป็นภรรเมียลำดับสองจนถึงแก่กรรมนั่นเอง ทำให้เฟลย์จงเกลียดจงชังแม่ลูกคู่นี้มากทีเดียวจนถึงกับคิดแผนฆาตกรรมอำพราง อันก่อให้เกิดตำนานนี้ขึ้นมา...

      เนื่องจากว่าคุ้งน้ำซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดหลักหล่อเลี้ยงหมู่บ้านนี้คือ \"แม่น้ำPlant\" นั้น มีจ้าววารีอันเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านอาศัยอยู่ และนามจ้าววารีนั้นก็คือ \"พญาจระเข้Athrun\"!!

      พญาจระเข้นั้นมีภรรยาเป็นนางจระเข้นามว่าLacus ซึ่งทั้งสองก็รักใคร่ปรองดองกันดีอยู่ แม้จะเหมือนมีสายใยบางๆมากีดกั้นทั้งสองให้ไม่ล่วงเกินกันและกันก็ตาม จนกระทั่งวันหนึ่ง...เฟลย์ซึ่งเกลียดชังคาการิที่เป็นลูกเมียหลวงให้ไปเล่นน้ำที่ท่าน้ำต้องห้ามเพราะใกล้วังน้ำวนซึ่งเป็นที่ตั้งวังของจ้าววารีนั่นเอง

      ขณะที่คาการิกำลังตีโป่งอย่างเพลิดเพลินนั้น เฟลย์ก็ฉวยโอกาสฟาดด้วยไม้หน้าสามเข้าทัดดอกไม้ แม้จะไม่จังนักเนื่องจากปฏิกิริยาโต้ตอบด้านการต่อสู้ของคาการินั้นไม่ใช่ย่อย แต่ก็ถึงกับสลบเหมือด จมบุ๋งๆๆลงไปในกระแสน้ำวน บุญยังดีที่พญาจระเข้อัสรันกำลังออกลาดตระเวณแถวนั้นพอดี เมื่อเห็นหน้าหญิงสาวจังๆก็เกิดศรรักปักอกรีบคาบกลับวังทันที ฝ่ายเฟลย์ที่เห็นกับตาว่าพี่สาวคนละแม่โดนจระเข้คาบไปก็ออกอุบายกลบเกลื่อนความผิดของตนเองเป็นว่า \"คาการิโดนจรเข้คาบไปกินแล้ว\" นั่นเอง ยังความเศร้าโศกเสียใจแก่สองสามีภรรยาคหบดียิ่งนัก...

      ฝ่ายคาการิเมื่อฟื้นขึ้นมาก็เกิดรักแรกพบกับอัสรันในร่างมนุษย์ที่เฝ้าไข้อยู่ตลอดเวลา โดยไม่รู้ว่าผู้มีพระคุณแท้จริงคือจระเข้จำแลงมาแถมมีภรรยาอยู่แล้วอีกหนึ่งตัว ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงครองรักกันอย่างชื่นมื่นในวังบาดาลนั้นเอง

      เวลาผ่านไปเจ็ดวัน...วนิพกพเนจรนายหนึ่งนามKiraก็เดินทางผ่านมายังหมู่บ้านแห่งนี้ เมื่อได้ทราบสาเหตุแห่งความโศกเศร้าของคนในหมู่บ้าน เพราะคาการินั้นเป็นที่รักด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและอ่อนโยนกับทุกคนก็ขันอาสาจะไปนำศพหญิงสาวกลับมาให้บิดามารดาทำพิธีศพอย่างสมเกียรติ ท่านคหบดีดีใจมากถึงกับประกาศว่าหากทำได้จริงจะยกเฟลย์ลูกสาวคนที่สองพร้อมทรัพย์สินทั้งหมดให้

      และแล้ววันงมศพก็มาถึง...
      คิระจัดแจงใช้Strike Beam Rifleระเบิดน้ำวนให้กระจาย ตามด้วยใช้Sword Strike Candleตัดน้ำจากฝั่งให้เป็นทางเดินไปยังใจกลางได้
      และสิ่งสุดท้ายคือ Freedom Neutron Jammer Cancellerสำหรับควบคุมน้ำไม่ให้เคลื่อนไหว เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว บุรุษน้อยปริศนาก็เดินเข้าไปในวังน้ำวนซึ่งตอนนี้นิ่งสนิทราวกับถูกหยุดเวลาไว้ ณ ใจกลางน้ำวนอันหยุดนิ่งนั้นปรากฎทางเข้าใต้ดินซึ่งสลักเสลาลวดลายอันวิจิตรเป็นรูปจระเข้ขนาดใหญ่ตามเสาและคานดูน่าเกรงขามยิ่งนัก ตอกย้ำความมั่นใจของคิระเป็นอย่างยิ่งว่าคาการิยังมีชีวิตอยู่แน่นอน

      ภายในถ้ำ...
      คิระค้นพบว่าเส้นทางช่างวกวนและซับซ้อนเสียเหลือเกิน จนแม้แต่ทางออกก็คงมิอาจหาพบเสียแล้ว แต่ขณะกำลังสับสนอยู่นั้น เสียงเพลงอันไพเราะน่าหลงใหลก็ลอยมาตามลม ดึงดูดวนิพกน้อยให้ลืมความทุกข์ใจคงไว้แต่อาการถวิลหาเจ้าของเสียงเพลงจนเดินตามไปอย่างไม่รู้ตัว

      ณ กลางถ้ำนั้นเอง...
      ลาคัสและคิระก็ได้ประสานสายตากันเป็นครั้งแรก ราวกามเทพเล่นกลแผลงศรรักปักอกทั้งคู่ แต่ขณะที่ทั้งสองต่างตะลึงจังงันจ้องมองกันและกันอยู่นั้น Haroสีชมพูสดซึ่งอัสรันเสกให้เป็นของขวัญครบรอบปีแรกที่แต่งงานกันก็ได้ส่งเสียงร้องเมื่อเห็นผู้มาเยือนทันที

      \"Hello! Hello! genki!!\"...พลันนั้นหนึ่งหนุ่มหนึ่งสาวต่างได้สติ ลาคัสรีบคว้าฮาโรมากอดไว้พร้อมร้องถามด้วยเสียงสดใสว่า \"ท่านเป็นใครจึงสามารถเข้ามาในวังบาดาลได้?\"

      คิระที่ได้สติแล้วเช่นกันจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนฝั่งให้ฟังโดยไม่ระแวงแคลงใจแม้แต่น้อยว่าหญิงสาวท่าทางใสซื่อบริสุทธิ์ดุจนางฟ้าตกสวรรค์นั้นจะเป็นจระเข้จำแลงแปลงมา หากแต่เมื่อลาคัสรับฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วนั้นก็ตระหนักได้ทันทีว่าความวุ่นวายต้องมาเยือนวังบาดาลเพราะอุบัติเหตุรักอันเกิดกับสามีตนเองและหญิงชาวมนุษย์นางนั้นแน่นอน แต่ความต้องตาถูกใจคิระแต่แรกพบทำให้นางจระเข้ตัดสินใจพาแขกไปพบจ้าววารีกับหญิงสาวที่อุตส่าห์ลงมาตามหาถึงเบื้องล่าง

      แล้วเรื่องน่าตกใจลำดับสองก็เกิดขึ้นมาคิระและอัสรันได้พบกัน ในสถานที่ซึ่งไม่คาดคิดเช่นนี้!?!

      \"คิระ!\"    เพียงแวบเดียวที่พบหน้าก็จดจำได้ทันที...

      \"อัสรัน!\"    เพียงสบตาความทรงจำในวัยเยาว์ก็พรั่งพรูขึ้นมาราวเขื่อนทลาย...

      แท้ที่จริงแล้วในวัยเด็กอัสรันชอบแอบแปลงร่างเป็นมนุษย์ไปเล่นบนบกนั่นเอง ทำให้ได้พบกับคิระและกลายเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก จนวันหนึ่งพญาจระเข้คนก่อนซึ่งเป็นพ่อของอัสรันจับได้เลยถูกกักขังไว้ไม่ให้ไปขึ้นบกอีก ส่วนคิระที่จู่ๆเพื่อนซี้กลับหายจ้อยไปก็ต้องย้ายที่อยู่จนไม่ได้เจอะเจอกันอีกถึง3ปี

      แต่ก่อนที่ความหลังอันงดงามจะเบียดบังเจตนารมณ์ที่แท้จริงในการมาเหยียบวังบาดาลนั้น คิระก็สังเกตเห็นหญิงสาวผมทองผู้อยู่ข้างกายเพื่อนรักสมัยเด็กพอดี ภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจึงกลับคืนสู่สัมปชัญญะอีกครั้งรีบลากตัวคาการิกลับขึ้นบกทันที ในขณะที่หญิงสาวกลับออกฤทธิ์เดชไม่ยอมแล้วไม่ยอมเล่า สามีช่วงข้าวใหม่ปลามันอย่างอัสรันกลับนั่งนิ่งด้วยความตกตะลึงที่เพื่อนรักรู้ความจริงเรื่องชาติพันธุ์ของตน โดยมีลาคัสคอยส่งสายตาแสดงความเป็นห่วงอย่างเงียบๆ

      เมื่อคิระพาคาการิที่ยังมีชีวิตอยู่กลับขึ้นฝั่งได้สำเร็จ สองสามีภรรยาก็รีบรับขวัญลูกสาวโดยการยกให้คิระอีกคนไปเลย(เพราะตอนพาขึ้นมา คาการิออกฤทธิ์เดชมากไปหน่อยเลยโดนคิระซัดเสียหนึ่งผลัวะแล้วแบกใส่บ่ากลับมา) ยังความเคียดแค้นแก่เฟลย์ผู้หมายมั่นปั้นมือจะครอบครองคิระเพียงผู้เดียวตั้งแต่แรกเห็นแล้ว แต่กลับต้องมาใช้สามีร่วมกับพี่สาวต่างแม่ที่แสนชิงชังอย่างคาการิอีก โดยไม่ได้สำนึกเลยว่าพี่สาวนั้นใจดีแค่ไหนที่ไม่แฉแผนร้ายถึงขนาดทำการฆาตกรรมคนในครอบครัวเดียวกัน...

      ทางด้านวังบาดาล...
      ในที่สุดพญาจระเข้อัสรันก็ตั้งสติได้ เลยแทบจะฟาดหางใส่ศรีภรรยาที่บังอาจชักศึกเข้าบ้าน แต่ลาคัสกลับโต้กลับเรื่องมิตรภาพอันบริสุทธิ์ในวัยเด็กและความทรงจำอันมีค่ากับคิระนั้นมีค่าน้อยไปกว่าหญิงสาวต่างเผ่าพันธุ์อย่างคาการิเช่นนั้นหรือ? ถึงได้โมโหโกรธาขนาดนั้น...และขณะที่อัสรันอึ้งอั้นอับจนคำตอบกลับ ลาคัสผู้แสนดีก็ประกาศแยกทางกันด้วยเหตุผลว่าตกหลุมรักคิระเข้าแล้ว!!

      ในวันแต่งงานของคิระกับสองเจ้าสาว(ไม่บริสุทธิ์เสียหนึ่ง)...
      คาการิเอาแต่นั่งเศร้าอยู่ในห้องฝ่ายเจ้าสาวเพราะแม้จะคิดถึงคนึงหาสามีคนแรกเพียงใดก็ไม่กล้าขัดใจพ่อแม่ อีกทั้งเรื่องการชิงสุกก่อนห่ามของตนนั้นหากให้บิดามารดาทราบความก็มีแต่จะต้องโดนจับใส่ตระกร้าล้างน้ำและถวายพานให้คิระอยู่ดี เพราะคงไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากมีลูกเขยเป็นจระเข้แหงๆ

      เฟลย์นั้นเล่าก็เอาแต่สบถสาบานสาปแช่งไม่ขอมีสามีคนเดียวกับพี่สาวคนละสายเลือดอยู่นั่น ด้วยยังปักใจแค้นเรื่องตนเองเป็นลูกเมียน้อยอยู่นั่นเอง พร้อมวาดแผนการถีบหัวพี่สาวออกนอกเรือนหอแล้วครองรักกับเจ้าบ่าวคนเดียวต่อไป

      คิระครุ่นคิดอย่างหนักถึงเรื่องที่ประสบพบเห็นในถ้ำใต้ดิน เพื่อนรักของตนเป็นจระเข้งั้นหรือ...
      รวมถึงนางฟ้าผมชมพูที่ยิงศรรักปักอกเรานั้นก็เป็นจระเข้แถมยังเป็นภรรยาของเพื่อนตนอีกงั้นหรือ...
      และคาการิที่กำลังจะแต่งงานกับเราก็กลายเป็นภรรยาของเพื่อนเราไปแล้วเช่นกันอย่างนั้นหรือ...
      หลากหลายคำถามและความสับสนที่พลุ่งพล่านอยู่ในศีรษะทำให้สีหน้าเจ้าบ่าวยามพบเจ้าสาวทั้งสองบึ้งตึงพิกล หากแต่ใบหน้าคาการิก็อมทุกข์โศกจนไม่มีเค้าของคนกำลังจะมีความสุขสักนิด แม้แต่เฟลย์เองก็เปล่งรังสีอำมหิตออกมาทางสายตาจนความงามลดทอนลงไปครึ่งหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด

      แต่ก่อนที่สาวบ่าวสาวจะได้สวมมงคลและรดน้ำสังข์นั้นเอง...
      อัสรันและลาคัสในร่างมนุษย์ก็ปรากฏกายพร้อมประกาศขอรับคาการิคืนไปและเอาลาคัสมามอบให้แทน แม้นว่าคิระจะดีใจแค่ไหนที่เพื่อนตนเองยกภรรยาให้ และคาการิจะถลาไปกอดสามีตัวจริงโดยลืมหน้าตาพ่อแม่ไปเสียสนิทก็ตาม คิระก็ไม่อาจตอบตกลงในทันทีได้...ด้วยเหตุนี้งานแต่งงานจึงต้องล้มเลิกไปและตระกูลLa Fragaต้องปิดบ้านประชุมกันเรื่องงานแต่งงานอย่างเร่งด่วน

      ณ ที่นี้เอง...คาการิที่มีอัสรันเคียงข้างจึงกล้าเปิดใจกับพ่อแม่และยืนยันว่าแม้สามีจะไม่ใช่มนุษย์แต่ก็มีน้ำใจสูงส่งยิ่งกว่ามนุษย์ทั่วไปเสียอีก พร้อมบอกความจริงว่าตนเองไม่ได้โดนลักพาตัวไป แต่โดนทำร้ายจนจมน้ำหวิดตายหากไม่ได้จระเข้มาช่วยชีวิตต่างหาก เมื่อเฟลย์ได้ยินดังนี้ก็เกิดอาการกินปูนร้อนท้องจนรีบวิ่งออกจากห้องไปหวังฆ่าตัวตายหนีความผิด หากแต่คิระซึ่งมีจิตใจอ่อนโยนเกิดความสงสารเลยตามไปห้ามปรามไว้ทันท่วงที

      และแล้วอัสรันกับคาการิก็ได้ครองรักกันอย่างเป็นสุขในวังบาดาล ส่วนคิระก็แต่งภรรยาทีเดียว1คนกับ1ตัวโดยไม่แบ่งเมียหลวง-เมียน้อยเพื่อลดความชอกช้ำของเฟลย์ที่เป็นลูกเมียน้อยนั่นเอง...

      FIN

      P.S. This fanfiction may be revised to release on GWF2004

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×